รวม 6 แมตช์กฏ ‘อเวย์โกล์’ สุดจี๊ดในการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

• Facebook
• Twitter
• Line

อย่างเป็นทางการแล้วว่าทาง ยูฟ่า ตัดสินใจโละระบบกฏ อเวย์โกล์ ออกไปในศึกการแข่งขันฟุตบอลยุโรปทำให้สกู๊ปนี้ขอรวบรวมนัด กฏอเวย์โกล์ ทำงานแล้วมันถึงอกมันถึงใจว่ามีนัดไหนกันบ้างและสกอร์เท่าไร

• ถ้วยยูฟ่า สำคัญยังไง ฟังความเห็น คล็อปป์ แบบเอ็กซ์คูลซีฟได้ที่นี่
• 7 นักเตะอายุน้อยที่สุด ที่ได้ลงเล่นในถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

6 แมตช์สุดจิ๊ดใน UCL จากกฏ อเวย์โกล์

อินเตอร์ มิลาน 2 – 2 บียาร์เรอัล

ฤดูกาล : 2005-06

รอบ : 8 ทีมสุดท้าย

สกอร์นัดแรก : อินเตอร์ มิลาน 2 – 1 บียาร์เรอัล

สกอร์นัดสอง : บียาร์เรอัล 1 – 0 อินเตอร์ มิลาน

ยุคสมัยอันเรือรองของ อินเตอร์ มิลาน ภายใต้การนำทีมของ โรแบร์โต้ มันชินี่ แต่พวกเขากลับไม่ประสบความสำเร็จเลยในการแข่งขันฟุตบอลยุโรป

แม้ว่าในช่วงเวลานั้น มันชินี่ จะมีนักเตะระดับ อาเดรียโน่, โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์, หลุยส์ ฟิโก้, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ หรือ เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ แต่เขาก็เข็นทีมไม่ขึ้นในแชมเปี้ยนส์ลีก

สุดท้ายเลยโดน “เรือดำน้ำสีเหลือง” ยุค มานูเอล เปเยกรินี่ ทำพิษใส่ในแชมเปี้ยนส์ลีกมันแบบดื้อๆและแน่นอนตอนนั้นพวกเขามีโคตรมิดฟิลด์อย่าง ฮวน โรมัน ริเกลเม่ เป็นตัวชูโรง

นัดแรก อินเตอร์ โดนทีเด็ดของ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ยิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีแรกของเกมการแข่งขันและใครจะเชื่อล่ะว่าสุดท้ายนี่จะเป็นประตูชี้เป็นชี้ตายของสโมสรแม้ อาเดรียโน่ และ มาร์ตินส์ จะมายิงรัวแซงให้ “งูใหญ่” ชนะไปก่อน

พอมานัดที่สอง โรดอลโฟ่ อาร์รัวบาร์เรน่า กลายเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยและประตูเดียวของเกมในนาทีที่ 58 ทำให้พวกเขาทะลุทะลวงเข้าสู่รอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์สโมสรด้วยกฏอเวย์โกล์นี้นี่เอง

• 6 ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ได้รับการยอมรับมากที่สุดใน พรีเมียร์ลีก
• 6 ดาวเตะค่าตัวแพงจาก พรีเมียร์ลีก ผลงานเป็นยังไงหลังย้ายลีก

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3 – 3 บาร์เซโลน่า

ฤดูกาล : 2012-13

รอบ : 8 ทีมสุดท้าย

สกอร์นัดแรก : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2 – 2 บาร์เซโลน่า

สกอร์นัดสอง : บาร์เซโลน่า 1 – 1 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

โชคชะตาในฟุตบอลยุโรปของ เปแอสเช ยังคงไม่เป็นอกเป็นใจให้กับพวกเขาตั้งแต่สมัยเริ่มปีกกล้าขาแข็งหัดเดินในเส้นทางนักเลงฟุตบอลและนัดนี้ก็คือตัวอย่างที่ดี

คาร์โล อันเชล็อตติ มีสตาร์ให้เลือกใช้งานมากมายทั้ง เดวิด เบ็คแฮม, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ติอาโก้ ซิลวา หรือ เอเซเกล ลาเวซซี่

อย่างไรก็ตาม บาร์ซ่า ภายใต้การนำทีมของตีโต้ บียาโนว่ายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยโคตรแข้งทั้ง อันเดรียส อิเนสต้า, ชาบี้ เอร์นันเดซ และ ลิโอเนล เมสซี่

เกมแรกเดือดแบบสุดๆเพราะฝั่งฟากบาร์ซ่าน่าจะเอาชนะได้ด้วยซ้ำไปหลังจากได้จุดโทษและ ชาบี้ สังหารเข้าไปในนาที 89 ให้ทีมนำ 2-1 แต่ แบรส มาตุยดี้ ก็ตีเสมอได้ในนาที 90+4 แบบแฟนๆเฮลั่นสนาม

เมื่อมานัดสองที่ คัมป์ นู ปารีสได้เฮก่อนแต่ก็กลาเป็นเฮเก้อเมื่อพวกเขาโดน เปโดร ซัดตีเสมอนาที 71 และมันก็กลายเป็นประตูที่ทำให้บาร์ซ่าเข้ารอบเพราะยักษ์ใหญ่แคว้นกาตาลันบุกไปยิงใน ปราค เดอ แพร็งซ์ ก่อน 2 ประตูนั่นเอง

*ถ้าคุณเป็นแฟนบอลบาร์ซ่าหรือไม่ว่าจะทีมใดก็ตาม เข้าไปดูอัตราจ่ายแชมป์ลาลีก้า 2021 – 22 พร้อมวางเดิมพันได้ทันทีที่ลิงก์นี้เลย!!

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3 – 3 เชลซี

ฤดูกาล : 2013-14

รอบ : 8 ทีมสุดท้าย

สกอร์นัดแรก : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3 – 1 เชลซี

สกอร์นัดสอง : เชลซี 2 – 0 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

เป็นทีมที่อาจจะบอกได้เต็มปากเต็มคำหรือพิมพ์ได้เต็มไม้เต็มมือว่าได้รับผลกระทบต่อกฏอเวย์โกล์มากที่สุดก็ว่าได้สำหรับเปแอสเช

คราวนี้พวกเขาเปลี่ยนโค้ชมาเป็น โลรองต์ บลองก์ พร้อมนักเตะเสริมแกร่งอย่าง มาร์โก แวร์รัตติ, เอดินสัน คาวานี่ รวมถึงตัวเก๋าอย่าง แบรส มาตุยดี้ แต่โชคชะตาก็ไม่เป็นใจเมื่อเจอทีมสุดเขี้ยวของ โชเซ่ มูรินโญ่

ในเกมแรก เปแอสเช เหมือนจะมีปัญหาเพราะจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1 แต่มาครึ่งหลังพวกเขาก็ระรัวสองประตูโดยเฉพาะการตอกย้ำประตูที่ 3 ของฮาเวียร์ ปาสตอเร่

อย่างไรก็ตามเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งมูรินโญ่ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของความแข็งแกร่งพวกเขาไม่เสียประตูง่ายๆและยิงได้ 2 ลูกจาก อังเดร เชือร์เล่ ครึ่งแรกและ เด็มบ้า บา ครึ่งหลังนาที 87

เจ็บแสบปวดร้าวจริงๆ

• รวมผลงานกุนซือสัญชาติอังกฤษในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
• 5 แข้งม้ามืด ฝีเท้าน่าจับตามองในศึก UCL

แอตเลติโก้ มาดริด 2 – 2 บาเยิร์น มิวนิค

ฤดูกาล : 2015-16

รอบ : รองชนะเลิศ

สกอร์นัดแรก : แอตเลติโก้ มาดริด 1 – 0 บาเยิร์น มิวนิค

สกอร์นัดสอง : บาเยิร์น มิวนิค 2 – 1 แอตเลติโก้ มาดริด

หาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือทีมที่ไม่ค่อยมีโชคในแชมเปี้ยนส์ลีกในรูปแบบของสโมสรยังไง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เองก็เป็นผู้จัดการทีมที่ไม่มีโชคในแชมเปี้ยนส์ลีกนับตั้งแต่ออกมาจากบาร์เซโลน่าอย่างนั้นเช่นกัน

เป๊ป ทะเยอทะยานที่จะคว้าถ้วยบิ๊กเอียร์กับสโมสรอื่นให้ได้แต่แล้วก็ล้มเหลวไปหมดเช่นเดียวกับนัดนี้ที่ต้องเจอความเขี้ยวของ ดีเอโก้ ซิมิโอเน่

นัดแรก “ตราหมี” ตามสไตล์ด้วยการเบียดเอาชนะไปได้ก่อน 1-0 จาก ซาอูล ญีเกซ ที่ยิงตั้งแต่ไก่โห่นาที 11

พอมานัดสองแน่นอนว่า บาเยิร์น บุกบ้านแตกสาแหรกขาดออกนำไปก่อนจาก ชาบี้ อลอนโซ่ ครึ่งแรกทว่าเกมพลิกเมื่อ อองตวน กรีซมันน์ มายิงได้ในนาที 54 ทำให้ “ตราหมี” มีอเวย์โกล์ทันทีทันใด

พลพรรค “เสือใต้” พยายามโหมไม่หยุดหย่อนได้เพิ่มมาหนึ่งตุงจาก โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ แต่แล้วก็ไม่รอดทำได้แค่ชนะ 2-1 สกอร์รวม 2-2 ร่วงรอบรองด้วยกฏอเวย์โกล์ไปแบบน้ำตานอง อัลลิอั๊นซ์ อารีน่า

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 3 – 3 อาแจ็กซ์

ฤดูกาล : 2018-19

รอบ : รองชนะเลิศ

สกอร์นัดแรก : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0 – 1 อาแจ็กซ์

สกอร์นัดสอง : อาแจ็กซ์ 2 – 3 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เชื่อว่านัดนี้ยังติดตาตรึงใจใครหลายคนอยู่เพราะมันสามารถเรียกว่าปาฏิหาริย์ของสเปอร์สก็ว่าได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นนัดที่สอง

อาแจ็กซ์ ของเอริค เทน ฮาก ที่มีดาวดังในปัจจุบัทั้ง ฮาคีม ซีเย็ค, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และ เฟร็งกี้ เดอ ยอง บุกไปเอาชนะสเปอร์สได้ก่อน 1-0 จาก ฟาน เดอ เบ็ค

มานัดที่สองทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็ทำท่าจะจอดที่รอบรองเพราะพวกเขาโดนนำไปก่อนถึง 2-0 จากการยิงของ มาไตส์ เดอ ลิกท์ และ ฮาคิม ซีเย็ค

อย่างไรก็ตามในครึ่งหลัง ลูกัส มูร่า ก็กลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของ “ไก่เดือยทอง” ด้วยการกดแฮตทริคในนาที 55, 59 และ 90+6 สเปอร์สของ โปเช็ตติโน่ เข้าชิงแชมเปี้ยนส์ลีกได้สำเร็จจากกฏอเวย์โกล์

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3 – 3 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ฤดูกาล : 2018-19

รอบ : 16 ทีมสุดท้าย

สกอร์นัดแรก : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 – 2 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

สกอร์นัดสอง : ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1 – 3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆว่า เปแอสเช นี่แหละคือสโมสรที่โดนพิษอเวย์โกล์มากที่สุดทีมหนึ่งกระทั่งปีหลังๆที่ผ่านมาพวกเขาก็ยังโดนอีกอยู่ดี

ทัพ “เศรษฐีหอไอเฟล” ของโทมัส ทูเคิ่ลทำแสบบุกไปเอาชนะ “ปีศาจแดง” ได้ก่อนถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 2-0 จากเปรสเนล คิมเปมเบ้ และ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

ใครก็คิดว่าเปแอสเชแบเบอแน่นอนแต่แล้วนัดที่สอง โรเมลู ลูกากู ก็มาปลุกกระตุ้นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ถึงสองครั้งสองคราโดยครั้งแรกเขาเป็นคนยิงนำ 1-0 และยิงนำ 2-1 หลัง ฆวน เบร์ญาต ตีเสมอได้

สกอร์ในตอนนั้นแน่นอนว่า ยูไนเต็ด ตามหลังอยู่ 2-3 กระทั่งพวกเขามาได้จุดโทษจากแฮนด์บอลของ คิมเปมเบ้ และ มาร์คัส แรชฟอร์ด สังหารเข้าไปในนาที 90+4

ดราม่าในดราม่าสุดๆ

---

หลังจากการแข่งขันฟุตบอลลีกเริ่มไปไม่นาน ณ ตอนนี้การแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2021 – 22 ก็กลับมาแข่งขันอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลทีมใด แต่หากต้องการเดิมพันทุกทีม หรือต้องการเดิมพันในลีกอื่นๆ คลิกเข้ามาที่ Sbo ที่นี่ได้รวมการเดิมพันฟุตบอลทุกลีกทั่วโลกไว้ในที่เดียว

• Facebook
• Twitter
• Line